วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บูลเทอร์เรีย (bull terier)


บูลเทอร์เรีย (bull terier)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

 
           บูลเทอร์เรีย  (Bull Terrier) สุนัข พันธุ์นี้เป็นที่รู้จักของคนไทยในยุคหลัง ด้วยหน้าตาแปลกๆ  แต่แอบน่ารัก โครงหน้าแหลมๆ ยาวๆ ตาตี่ๆ หูตั้ง ตัวขาวล้วน มีสีดำแต้มที่บริเวณตาข้างใดข้างหนึ่ง ดูไปดูมาหน้าตาออกแนวกวนใจ  บูลเทอร์เรีย เลี้ยงง่าย มีจินตนาการสูง มีบุคลิกไม่เหมือนสุนัขพันธุ์อื่น ที่ทำให้ใครๆ เห็นแล้วต้องหลงรักในความทะเล้น ขี้เล่น ทำให้เวลานี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย มาแรงแซงทางโค้ง มีผู้นิยมเลี้ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ในบ้านเรา

           สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog)กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier )ได้ออกมาเป็น "บูลแอนด์เทอร์เรีย"  แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer Blood) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อยๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วนห น้าตาน่ารักน่าชังอย่างที่เห็นทุกวันนี้ 

           ข้อดีของสุนัข บูลเทอร์เรีย เป็นนักสู้ที่อ่อนหวานโดยธรรมชาติเป็นนักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉงรักครอบครัวและหวงอาณาเขตโดยสัญชาติญาณ มีนิสัยที่รักเจ้าของมากๆ ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ ขณะเดียวกันก็เป็น สุนัข ที่มีจิตใจที่อ่อนหวาน อ่อนโยน แล้วก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กได้ดี

           หากดูในเรื่องของความฉลาด และการเชื่อฟังคำสั่ง คุณอาจผิดหวังเพราะ สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดว่าไม่ฉลาดเท่าไหร่ จากการวัดไอคิวของสุนัขทั้งหมด 79 สายพันธุ์ บูลเทอร์เรีย ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 66  ถ้าเป็นคนอาจถูกจัดเป็นนักเรียนหลังห้องอะไรทำนองนั้น อย่างไรก็ตาม บูลเทอร์เรีย สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ในระดับหนึ่ง แต่การตอบสนองก็ไม่ดีเหมือนพันธุ์อัลเซเชี่ยน, ลาบราดอร์ หรือ พุดเดิ้ล ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้สุนัขฉลาด เชื่อฟังคำสั่งดีก็ขอให้มองข้าม สุนัข บูลเทอร์เรีย นี้ไปได้เลย

ลักษณะทั่วไปของ สุนัข บูลเทอร์เรีย

           บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข ได้แก่  American Pittbull Terrier, Staffordshire Bull Terrier, Miniature Bull Terrier, และ Bull Terrier ทั้งนี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 15  ปี น้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง  52-62 ปอนด์ ส่วนสูงอยู่ที่ 21-22 นิ้ว บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ 

           บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ
  


บูลเทอร์เรีย (bull terier)


อาหารและการเลี้ยงดู สุนัข บูลเทอร์เรีย
 
           เนื่องจากเป็น สุนัข ขนาดกลาง ปริมาณในกินอาหารในแต่ละมื้อของ บูลเทอร์เรีย จึงไม่มากเท่าไหร่ แต่ผู้เลี้ยงก็ควรฝึกให้มีวินัยในการกิน กินเป็นเวลา ไม่พร่ำเพรื่อ เพราะ บูลเทอร์เรีย มีนิสัยกินเก่ง หากให้อาหารบ่อยๆ อาจเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ ดังนั้น จึงควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ซึ่งอาหารเม็ดจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากสะดวก ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาปรุงเอง ส่วนการดูแลความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะ สุนัข บูลเทอร์เรีย ขนสั้น เพียงแค่แปรงขนให้เขาสัปดาห์ละ 1 ครั้งด้วยแปรงยาง หรือถุงมือที่เป็นแปรง และอาบน้ำให้ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

           แต่เรื่องที่ยากก็คือ สุนัข บูลเทอร์เรีย โดยเฉพาะสีขาวมักมีปัญหาเรื่องผิวหนังแพ้ง่าย โดยธรรมชาติผิวหนังจะค่อนข้างแพ้แสงแดด ดังนั้น ควรเอาใจใส่ดูแลในเดือนที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ และเวลาพาไปเล่นอะไรที่สกปรก ก็อย่าลืมนำเขากลับมาล้างตัวด้วยน้ำเปล่า และเช็ดให้แห้งทุกครั้ง เพื่อป้องกันการหมักหมมของเชื้อโรค และพวกปลอกคอที่เป็นหนังก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะอาจเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคชั้นดีที่ทำให้ บูลเทอร์เรีย สุดสวยสุดหล่อของคุณเป็นโรคผิวหนังได้ 

โรคและวิธีการป้องกัน

           แม้ บูลเทอร์เรีย จะเป็น สุนัข ที่พื้นฐานร่างกายค่อนข้างแข็งแรง แต่โรคและอาการที่พบใน บูลเทอร์เรีย ก็มีมากเช่นกัน ทั้งนี้โรคที่พบบ่อย ได้แก่

            1.โรคผิวหนังหรือผิวหนังมีอาการแพ้ง่าย โรคนี้พบมากเหลือเกินโดยเฉพาะสุนัขที่มีสีขาว และอยู่ในประเทศแถบร้อนชื้นอย่างบ้านเรา 

            2. โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด อาการนี้ต้องให้สัตวแพทย์ตรวจ ซึ่งหมายความว่าผู้เลี้ยงจะต้องหมั่นพาเขาไปตรงสุขภาพทุกปี เมื่อรู้ว่าเขาป่วยด้วยโรคนี้จะได้ดูแลได้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นบางคนนำสุนัขที่เป็นโรคหัวใจไปออกกำลังกายหนักๆ ก็จะทำให้เขาเสียชีวิตได้ 

            3. โรคไตผิดปกติแต่กำเนิด อาการนี้ก็ต้องตรวจเช่นกันครับว่าค่าไตอยู่ในเกณฑ์ปกติหรืไม่ เพื่อเราจะได้เตรียมการดูแลที่ต่างออกไปจากสุนัขปกติ ทั้งด้านอาหาร และการออกกำลังกาย

            4. อาการหมุนเป็นวงกลมโดยไม่สามารถควบคุมได้ บางตัวอาจมีการงับหางตัวเองร่วมด้วย ส่วนมากเกิดจากความเครียดที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

            5. อาการลูกสะบ้าหัวเข่าเคลื่อน เป็นโรคเกี่ยวกับพันธุกรรม เกิดจากการเลี้ยงบนพื้นลื่น หรือบางตัวอาจได้รับการกระแทกบริเวณหัวเข่า อาจแสดงอาการเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างพร้อมกันก็ได้ อาการที่พบคือ สุนัขจะเดินย่อตัว ปลายเท้าแบะออก นอกจากนี้อาจพบโรคกระดูกบาง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการได้รับสารอาหารบางชนิดในวัยเด็ก เช่น ข้าวคลุกตับ โครงไก่ หรือปลากระป๋อง หรือการเสริมแคลเซียมให้มากเกินไป ทำให้ระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในกระแสเลือดเสียสมดุล ส่งผลให้เกิดโรคกระดูกบางตามมาได้

            6. หูหนวกแต่กำเนิด ที่ต่างประเทศจะมีเครื่องที่ใช้ตรวจกรณีนี้โดยเฉพาะเรียกว่า BEAR test แต่เท่าที่ทราบนี่เมืองไทยยังไม่น่าจะมี แต่เราก็สามารถใช้วิธีตรวจสอบคร่าวๆ ได้ครับเช่น การเป่านกหวีด หรือทำเสียงต่างๆ เพื่อป้องกันการซื้อสุนัขหูหนวกมาเลี้ยง

           จะเห็นได้ว่า สุนัข บูลเทอร์เรีย มีโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้ไม่แพ้ สุนัข สายพันธุ์อื่นๆ แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรงเพียงใดก็ตาม ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรพาสุนัขไปพบสัตว์เเพทย์เป็นประจำตามใบนัดเพื่อทำการฉีดวัคซินตามโปรเเกรม และขอย้ำเรื่องการจูงเดินเล่น เป็นการออกกำลังกายที่ควรจะทำให้บ่อยที่สุด หรือทุกวันก็จะดีมากๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงในเวลาที่แสงแแดดจัด จะได้ไม่เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น