วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เจแปนนิส ชิน (Japanese Chins)

เจแปนนิส ชิน (Japanese Chins)
ฉลาด มีไหวพริบ คล่องแคล่ว ขี้เล่น

ลักษณะทั่วไป
     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีรูปร่างเล็ก ขนยาวปานกลาง มีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์ชิสุ แต่ว่ามีขนบริเวณศีรษะและใบหน้าค่อนข้างสั้น สีขนทั่วไปจะเป็นสีขาวสลับสีดำ หรือ สีขาวสลับแดง อุปนิสัยค่อนข้างอ่อนไห ง่าย ฉลาด มีไหวพริบ เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ เขาจึงต้องการความรักสูง พวกเขาคล่องแคล่ว ขี้เล่น ง่ายต่อการถูกฝึกสอนให้แสดงโชว์หรือเล่นเกมต่างๆ


 ความเป็นมา
     เจแปนนิส ชิน มีประวัติต้นกำเนิดที่ยาวนาน และยังไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นมาจากประเทศใด บ้างกล่าวว่า ต้นกำเนิดและการพัฒนาสายพันธุ์ มาจากถิ่นพื้นเมืองของประเทศจีน พวกเขาเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์และความน่ารัก สามารถเป็นที่รักได้กับทุกๆ คน  ในสมัยก่อนเจแปนนิส ชินได้รับการผสมพันธุ์เพื่อเป็นเพื่อนกับกลุ่มหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในราชวัง นอกจากนี้พวกเขายังถูกนำมาเป็นภาพประกอบอยู่บนเครื่องปั้นดินเผาและลายเย็บปักถักร้อยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่สุนัขพันธุ์นี้คนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ เนื่องจากพวกเขาจะถูกเลี้ยงและเก็บไว้เฉพาะชนชั้นสูง อย่างไรก็ตามในบางหลักฐานกล่าวว่า ต้นกำเนิดของเจแปนนิส ชิน เริ่มแรกเดิมทีอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ช่วงประมาณ ค.ศ.732 เป็นสุนัขที่มีไว้สำหรับมอบเป็นของขวัญให้แก่ครอบครัวของราชวงศ์เกาหลีและญี่ปุ่น รวมทั้ง บรรดาขุนนาง และชาวต่างชาติที่ทำงานรับให้ญี่ปุ่น  จนกระทั่งร้อยกว่าปีต่อมา เพอรรี่ ผู้บังคับการเรือชาวอเมริกัน ได้นำสุนัขพันธุ์นี้เข้าไปยังประเทศอังกฤษ จนกลายเป็นที่นิยมทางฝั่งตะวันตก

ลักษณะนิสัย
     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง สดใส ตื่นตัว ซื่อสัตย์ ว่องไว อ่อนไหว อ่อนโยน เป็นมิตร และขี้เล่น  ด้วยเหตุที่พวกเขาเป็นสุนัขที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนมนุษย์และครอบครัว พวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนไหวง่าย และต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่สูง ยิ่งผู้เลี้ยงดูแลและให้ความรักได้ดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักได้มากเท่านั้น พวกเขาเข้าได้ง่ายกับคนแปลกหน้า สัตว์ตัวอื่น ปรับตัวได้ดีกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เจแปนนิส ชิน พวกเขามีข้อเสียเล็กน้อย ตรงที่ต้องการการเอาใจใส่มากจนติดนิสัยเอาแต่ใจ ต้องการเป็นจุดสนใจ  และถ้าพวกเขาไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เขาก็จะเกิดอาการอิจฉา อารมณ์ไม่ดี วิตกกังวล


การดูแล
     เจแปนนิส ชิน มีขนยาวควรได้รับการแปรงขนประมาณ 3-4 นาทีเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนสวยและดูเงางามอยู่เสมอ ขนของเจแปนนิส ชินเป็นขนชั้นเดียว มีการพลัดขนปานกลาง ควรอาบน้ำให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้แชมพูที่อ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิว ควรหลีกเลี่ยงครีมนวด หากไม่สกปรกมากนัก การแปรงขนเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การดูแลรักษาตาสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน หูก็เช่นกัน เพราะอาจจะพบสัญญาณของการติดเชื้อได้ ส่วนการดูแลรักษาฟันก็ควรรักษาให้สะอาดเช่นกัน เพราะการคอยตรวจเชคและดูอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ฟันของพวกเขาอยู่ได้นานมากขึ้น นอกจากนี้ควรตรวจดูเล็บเท้า หากยาวให้ตัดบริเวณปลายเล็บออก

     การออกกำลังกาย เจแปนนิส ชินต้องการการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาเป็นสุนัขที่มีพลังงานต่ำ ควรให้เขาออกกำลังกายวันเว้นวันเป็นอย่างมาก หรือ 2-3 วันต่อครั้ง พวกเขาชอบเดินมากกว่าวิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายแต่พอดีทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและมีความสุข แต่ต้องระวังสุนัขตัวอื่นพยายามเข้ามาจู่โจม หรือเข้ามาเล่นด้วยความรุนแรงเพราะจะทำให้พวกเขาตกใจ

ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขขนาดเล็กต้องการพื้นที่ในการอยู่อาศัยน้อย ชอบอยู่เงียบๆ ภายในบ้าน สามารถหากิจกรรมเล่นยามว่างได้เอง จึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องการออกไปเดินเล่น  หรือวิ่งเล่นที่สนามหญ้าโล่งกว้างบ้างประมาณ วันเว้นวัน หรือ 2 วันต่อครั้ง ผู้เลี้ยงควรมีเวลาแปรงขนให้เขาเป็นประจำทุกวัน มีเวลาอยู่กับเขา ใส่ใจและให้ความรักเขาอย่างเพียงพอ เจแปนนิส ชินเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่า แต่จะเห่าเพื่อให้คนแปลกหน้าตื่นตัว หรือตื่นตกใจ พวกเขาจึงเหมาะกับเป็นสุนัขที่มีไว้เฝ้าบ้านด้วย

ข้อควรจำ
     เจแปนนิส ชินมีปัญหาได้เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์หน้าสั้นทั่วๆ ไป พวกเขามีแนวโน้มมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ส่งเสียงครืดคราด ถ้าหากอยู่ในระดับรุนแรงมากขึ้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นกระดูกสะบ้าอักเสบ ต้อหิน ต้อกระจก โรคลมแดด  และเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นโรคหัวใจในสุนัข โดยเฉพาะเมื่ออายุย่างเข้า 10 ปี ดังนั้นจึงควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ และหากพบอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด  เพศผู้และเพศเมียมีขนาดใกล้เคียงกัน คือ ส่วนสูงประมาณ 7 – 11 นิ้ว และน้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกกรัม ถึง 6.8 กิโลกรัม

ศรีษะ  ใหญ่และกว้าง กลมเล็กน้อยระหว่างหูทั้ง 2 ข้าง หน้าผากยื่นออกมาโดนเด่นสะดุดตา  ช่วงศีรษะระหว่างตาทั้ง  2 ข้างห่างกัน จุดหักระหว่างหน้าผากกับดั้งจมูกลึก สันจมูกสั้นกลม

ฟัน    ขากรรไกรกว้าง มีฟันหน้าของขากรรไกรล่างยื่นออกมาเล็กน้อย

ปาก ปากกว้าง รูปปากโค้งต่ำ ติดกับจมูก หากอ้าปากจะมีลักษณะยิ้ม ริมฝีปากบางกระชับมีสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ

ตา   ตากลม โต อยู่ห่างกัน นัยน์ตาสีเข้ม เป็นประกาย พื้นที่สีขาวนิดๆ ที่มุมหัวตา ขับเน้นให้ดวงตาดูเหมือนกำลังประหลาดใจหรือฉงนสงสัยอยู่ตลอดเวลา

หู  หูรูปทรงตัววี (V) เล็ก ทิ้งลง อยู่ห่างกัน โคนหางอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดของศีรษะเล็กน้อย ใบหูกระชับ เมื่อตื่นตัวหูจะหันไปด้านหน้าและลู่ไปด้านล่าง

จมูก  จมูกสั้น กว้าง รูจมูกเปิด  ตั้งอยู่ระหว่างดวงตาทั้ง 2 ข้าง เชิดขึ้นด้านบน  จมูกสีดำ หรือ ดำเจือสีแดง เจือสีขาว หรือตามสีขน

คอ   ความยาวและความหนากำลังพอดี ตั้งอยู่บนช่วงไหล่มั่นคง แลดูสง่างาม

อก    ซี่โครงอกลึกขยายไปถึงช่วงข้อศอก

ลำตัว รูปทรงลำตัวเป็นทรง 4 เหลี่ยม ช่วงรอบซี่โครงอกกว้างกำลังพอดี

เอว    -

ขาหน้า       ขาหน้าตรง รูปกระดูกสวย ข้อศอกตั้งอยู่ใกล้กับลำตัว

ขาหลัง       ขาหลังตรง กระดูกขาสวยได้รูป บริเวณหน้าขาช่วงต้นขาโค้งกำลังดี

หาง   หางตั้งสูง โค้งขึ้นที่หลัง พาดทิ้งลงบนข้างใดข้างหนึ่งของลำตัว

ขน   ขนตรง ดก เส้นบางนุ่มเหมือนแพรไหม  ขนหนาเป็นพิเศษบริเวณคอ ไหล่ บริเวณอก และช่วงบั้นท้าย  ขนบริเวณหางเป็นพวงพุ่ม และมีลักษณะการเรียงตัวของเส้นขนคล้ายขนนก ขนที่ศีรษะและรอบปากสั้น ยกเว้นขนบริเวณหูที่ค่อนข้างยาว  ส่วนขาหน้าสั้น โดยเฉพาะช่วงขาท่อนล่างถึงเท้า แต่ด้านหลังของขาค่อนข้างยาว

สีขน สีขนสามารถเป็นได้ทั้ง สีดำกับสีขาว สีแดงกับสีขาว สีดำกับสีขาวแต้มสีน้ำตาลแดงเป็นจุดๆ  ซึ่งจุดสีน้ำตาลแทน หรือสีแดง สามารถแต้มได้บริเวณเหนือดวงตา แก้มทั้ง 2 ข้าง และแต้มบริเวณใกล้กับทวารหนัก หากบริเวณนั้นไม่ได้มีแค่ขนสีดำ ขนสีแดง

สามารถมีเชดสีได้หลากหลาย เช่น เชดสีส้ม สีเลมอน สีน้ำตาลเหลือง หรือ สีแดงเกือบดำ  สีขนบริเวณศีรษะมีการแต่งแต้มลักษณะคล้ายกับหน้ากาก  แต่ต้องในสัดส่วนที่รับกันอย่างดีถึงจะเหมาะสม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น