วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ (บัวโบว์) (South African Mastiff (Boerboel))

เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ (บัวโบว์) (South African Mastiff (Boerboel))

เป็นสุนัขที่เอาไว้เฝ้าบ้า เฝ้าไร่นา ดูแลปกป้องครอบครัวได้ดี


ลักษณะทั่วไป
     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่เช่นเดียวกับสายพันธุ์มาสทิฟฟ์อื่นๆ  แข็งแรง มั่นใจในตัวเอง ศรีษะใหญ่ ผิวหนังของพวกเขาควรจะเป็นสีดำที่บริเวณใต้ท้อง ใต้ขน และหรือปาก ซึ่งจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ขนของเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะสั้น หนาแน่น มีทั้งสีน้ำตาลเหลือง สีน้ำตาล สีครีม และสีน้ำตาลแดง ส่วนที่มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “Boerboel” นั้น มีความหมายว่า สุนัขฟาร์ม พวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการทำงานในฟาร์มตามชนบทของแอฟริกาใต้ และเป็นเพื่อนที่ดีกับคน

ความเป็นมา
     ชอง แวน รีบีค เดินทางไปยังช่องแคบแอฟริกัน ในปี ค.ศ. 1652 และนำสุนัขของเขาติดไปด้วยเพื่อปกป้องครอบครัว จากป่าเขาหรือชนบทที่เขาไม่รู้จัก ซึ่งสุนัขของเขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า บูลเลนบิทเจอร์” สุนัขสายพันธุ์มาสทิฟฟ์ร่างหนาใหญ่ ได้ผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์พื้นเมืองของแอฟริกาใต้ แล้วให้ชื่อสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์นี้ว่า บัวโบว์” (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์) เพื่อนำมาใช้งานในฟาร์ม ล่าสัตว์ที่มารุกล้ำพื้นที่ หรือนำพวกเขาไปใช้ในเกมการล่าสัตว์อื่นๆ

ลักษณะนิสัย
     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่เอาไว้เฝ้าบ้า เฝ้าไร่นา ดูแลปกป้องครอบครัวได้ดี พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าหรือสัตว์แปลกๆที่มาบุกรุกให้ผู้เลี้ยงได้รู้ แต่ถ้าพวกเขาได้รับการแระนำให้รู้จักคนแปลกหน้า พวกเขาก็เรียนรู้ได้ดีว่านี่คือเพื่อนใหม่ หรือใครที่สามารถต้อนรับเข้ามาในบ้านได้ อย่างไรก็ตามแม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะดูดุดันกับคนแปลกหน้า แต่พวกเขาก็รักรักครอบครัวมาก ชอบใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พวกเขาสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ ได้ทุกช่วงวัยเพราะทนทานต่อสภาพการเล่นอันรุนแรงของเด็กๆ ได้ ทว่าก็ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่กับเด็กๆเพียงลำพัง ควรอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ นอกจากนี้พวกเขายังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีกด้วย

การดูแล
     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นน้องหมาขนสั้น หนา จึงทำความสะอาดง่าย ควรแปรงขนครั้ง  - สองครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อผลัดขนเก่าทิ้งไป นอกจากนี้บริเวณด้านในขา ช่วงปลอกคอ และตามจุดอับต่างๆ ตามผิวหนังอาจมีเห็บกัดเกาะอยู่ ควรเชคดูเป็นประจำทุกๆ เดือน โดยแป้งกันเห็บหมัดให้เขาอย่างสม่ำเสมอ การน้ำควรอาบให้เดือนละครั้ง หากอาบมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังแห้ง เป็นสะเก็ดได้ นอกจากนี้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์มีแนวโน้มที่จะแพ้แชมพูและครีมนวด ดังนั้นควรเลือกแชมพูสำหรับผิวแพ้ง่ายให้เขาโดยเฉพาะ อีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษคือฟัน ควรทำความสะอาดฟันให้เขาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในปาก ฟันร่วง และมีกลิ่นปาก

     สำหรับการออกกำลังกาย แม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์เป็นสุนัขตัวใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต้องการการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ เพียงมีพื้นที่วิ่งเล่น  หรือเล่นกับสุนัขตัวอื่นภายในบ้านก็เพียงพอ พวกเขาเป็ฯสุนัขที่สามารถหากิจกรรมเพื่อออกกำลังให้ตัวเองได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ชอบที่จะเดินเล่นออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของ และสมาชิกในครอบครัว พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลร่วมกับเด็กๆ ในครอบครัว แต่การพาเขาไปข้างนอก ผู้เลี้ยงก็ต้องมั่นใจว่าเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ที่เลี้ยงไว้จะอยู่ภายใต้การควบคุมได้แน่นอน ไม่เป็นอันตรายต่อคนที่วิ่งสวนไปมา

ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่กว้างๆ ในบ้านก็ควรมีห้องหลายห้องให้เขาไปเดินไป เดินมา  มีสนามหญ้าให้เขาวิ่งเล่น ออกกำลังกายแต่ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากนัก อาบน้ำให้  2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง แปรงขึ้นให้เป็นประจำ พวกเขาเป็นน้องหมานักพิทักษ์ปกป้องครอบครัว หากมีคนแปลกหน้ามาบ้าน ผู้เลี้ยงควรให้เขาทำความรู้จัก คุ้นเคยเพื่อให้เขายอมรับว่าคนที่เข้ามาในบ้านเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่สำคัญถึงเขาจะตัวใหญ่แต่ก็ต้องการความรักจากครอบครัวมากๆ ไม่ควรปล่อยให้เขารู้สึกขาดความรัก ควรเอาใจใส่เขา และให้เขามีส่วนร่วมในครอบครัว

ข้อควรจำ
     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง แทบจะไม่ต้องหาไปสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอาการใดๆ เป็นพิเศษ  แต่ก็สภาวะอาการ 2 ลักษณะที่อาจเกิดขึ้นกับเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์โดยกรรมพันธุ์  นั่นก็คือ ช่องคลอดขยายซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น  และ อีกอาการหนึ่งคือสะโพกเสื่อม ดังนั้นผู้เลี้ยงควรพาเขาไปตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันสภาวะหรือโรคดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น  

มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด   เพศผู้มีส่วนสูงประมาณ 25-28 นิ้ว น้ำหนัก 70-90 กิโลกรัม ส่วนเพศเมียส่วนสูงประมาณ 23-25.5นิ้ว น้ำหนัก 70-90 กิโลกรัม
ศรีษะ   มีลักษณะทรงเหลี่ยม แบน มีกล้ามเนื้อ กระดูกโหนกแกมชัดเจนแต่ก็ไม่ถึงกับแหลมโดดเด่นมากจนเดินไป จุดหักบริเวณใบหน้าลาดลงกำลังดี ไม่ชัดจนเกินไป
ฟัน       ฟันขาว แข็งแรง ช่วงว่างระหว่างฟันกำลังดี  มีลักษณะฟันขนกรรไกร
ปาก     ริมฝีปากล่างคล้อยลงแต่อวบอิ่ม ด้านริมฝีปากบนสัมผัสกับส่วนบนของริมฝีปากล่าง
ตา        ดวงตามีขนาดปานกลาง มีแววฉลาด ขอบตากระชับไม่คล้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ควรเป็นสีน้ำตาลที่เข้ามกว่าสีขน
หู         หูมีขนาดปานกลาง รูปตัววี (V)  สองหูอยู่ห่างกันแต่ทิ้งลงขนาบกับ 2 หู เมื่อตื่นตัวหูจะกางกว้างขึ้นเล็กน้อย
จมูก     รูจมูกใหญ่ กว้าง ดำสนิท เส้นจากจมูก เส้นตรงที่อยู่ใต้จมูกตั้งจากกับขากรรไกรล่าง
คอ       ควรยาวพอประมาณ ลำคอควรตั้งบนหัวไหล่ แลดูมั่นคงกล้ามเนื้อแลเห็นเด่นชัด ขนบริเวณรอบคอห้ามมีการตกแต่ง
อก       อกกว้างลึก ลึก และกว้าง กระดูกซี่โครงขยายกำลังดี และ กล้ามเนื้อแข็งแรง
ลำตัว    หลังตรง กว้าง ขนานกับพื้นดิน ไม่ว่าจะยืนหรือเคลื่อนไหว ใต้ต้องค่อนข้างบึกบึน ลำตัวแน่นเป็นทรงเหลี่ยม กว้าง ลึก เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ดูแข็งแกร่ง
เอว       -
ขาหน้า ขาหน้าแข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มองจากทางด้านข้างขาหน้าควรตั้งตรงตั้งแต่หัวไหล่ หากมองจากทางด้านหน้าขาทั้ง 2 ข้างต้องขนานกัน
ขาหลัง กระดูกขาหลังแข็งแรง ช่องโค้งหน้าขากระชับ มั่นคง แข็งแรง โค้งรับกับท่อนขากำลังดี ดูมีพละกำลัง เคลื่อนไหลมั่นคง หน้าแข้งท่อนขนกว้าง ลึก และมีกล้ามเนื้อสวยงาม ชัดเจน ส่วนหน้าแข้งด้านล่างกล้ามเนื้อได้รูป แข็งแรง ชัดเจนไปจนถึงช่วงขา
หาง      หางจะทิ้งต่ำไปจนถึงช่วงขา แต่เมื่อเคลื่อนไหวหรือตื่นเต้น หางจะโค้งขึ้นเล็กน้อย
ขน       ขนสั้น หนาแน่น ลื่น และเงางามเป็นประกาย ผิวหนังหนาและยืดหยุ่น

สีขน    สีขนควรเป็นสีน้ำตาล สีแดงหรือสีน้ำตาลเหลือง มีสีขาวแต้มเพียงบริเวณขา และหน้าอก มีสีดำแต้มบริเวณริมฝีปาก ขนบริเวณหู  หรือถ้าหากมีสีเป็นลาย ซึ่งควรมีสีขาวไม่เกิน 33 เปอร์เซ็นต์ อยู่บริเวณ เท้า รอบคอ หรือขา

เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard )

เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard )  ตัวใหญ่ใจดี มีพละกำลังเยอะ ช่วยกู้ภัยได้

ลักษณะทั่วไป
     สุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตาซึม ๆ คล้ายดูจะอึดอาด ต้องยกให้กับพันธุ์นี้เลยเซนต์เบอร์นาร์ด” หน้าของมันจะมีเหมือนหน้ากากขนสีดำปกคลุมไว้ จึงทำให้ดูน่าเกรงขาม จะว่าไปเจ้าเซนต์นั้นก็เป็นสุนัขที่มีพละกำลังอยู่มาก มากพอที่จะลากคนได้ตัวปริวเลยทีเดียวล่ะ ยังไม่แค่นั้นเจ้าเซนต์ยังมีรูปร่างสูง ใหญ่ กำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและแขน ที่เกิดจาการออกกำลังกายการฝึกฝนอยู่เสมอ หากอยู่ในท่ายืนตัวจะสูงกว่าหรือเท่าคนเลยนะจะบอกให้ จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group หรือ สุนัขที่มีประโยชน์ในการกู้ภัย เฝ้าบ้านและงานด้านตำรวจ

ความเป็นมา
     ประวัติของยังไม่เป็นที่แน่ชัดในต้นกำเนิดที่แท้จริงใน 700 ปีก่อนคริสตกาล แต่เจ้าเซนต์เบอร์นาร์ดนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานมากๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 – 1670 นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบันระยะเวลาประมาณได้กว่า 1,000 ปี ถิ่นกำเนิดของเซนต์เบอร์นาร์ด คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ดที่ปกคลุมด้วยหิมะ แห่งเทือกเขาแอลป์(Alps) เป็นสุนัขภูเขาที่มีไว้รักษาความปลอดภัยให้กับพระและช่วยเหลือ กู้ภัยชีวิตมนุษย์ เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1048

     นักบวชชาวคริสต์ศาสนา ชื่อว่า เบอร์นาร์ดได้ไปยังบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ด เพื่อทำการขับไล่พวกโจรชาวฮังการีและซาราเซที่มักจะปล้น และฆ่าคนเดินทางหรือยึดตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ให้ออกจากบริเวณนั้น เพื่อให้เกิดความสงบสุขและปลอดภัยต่อนักเดินทาง ซึ่งนักบุญเบอร์นาร์ดและเหล่าฤษีได้สร้างสถานที่พำนักไว้ช่วยเหลือ เหล่านักเดินทางถึงแม้จะกำจัดโจรได้อย่าง เส้นทางของช่องเขาเซนต์เบอร์นาร์ดก็เต็มไปด้วยอันตรายกับการเดินทางด้วยเท้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอากาศเหน็บหนาว ทั้งพายุหิมะหรือหิมะถล่มที่เป็นอันตรายต่อผู้เดินทางสัญจรไปมา หลายครั้งที่มีคนติดอยู่ใต้หิมะที่ถล่มลงมา เมื่อเป็นอย่างนี้นักบุญเบอร์ดนาร์ดได้นำสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ด มาฝึกฝนในการเพื่อช่วยเหลืองานผู้ประสบภัย จมูกของมันนั้นไวและสามารถดมกลิ่นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายใต้หิมะได้เหลายๆฟุต

     โดยทุกครั้งที่จะออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่คอของมันจะมีถังไม้เล็กๆ ที่บรรจุเหล้าองุ่นหรือยาให้ผู้ประสบภัยเปิดกินและใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเซนต์เบอร์นาร์ด บางตัวอาจมีผ้าห่มผูกติดหลังเอาไว้เพื่อให้ผู้ประสบภัยห่มกันหนาวด้วย จึงได้รับสมญานามว่าเป็น หมานักบุญ(SAINT)” ต่อมาได้มีการนำเซนต์เบอร์นาร์ดเข้าสู่เมืองและมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งได้รับการยอมรับและยกย่องว่า เป็นสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นเป็นสายพันธุ์แท้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการประกาศให้เป็นสุนัขประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้นมา

 ลักษณะนิสัย
     เป็นสุนัขที่ใจดีที่สุดในบรรดาเหล่าสุนัขทั้งหลาย(โดยเฉพาะกับเด็กๆ) ฉลาด ไม่ก้าวร้าวและขี้กลัว เป็นมิตรกับคน ถ้าคนไหนไม่รู้จักก็จะต้องแนะนำให้รู้จักก่อนนะ เพื่อมันจะได้ไม่ระแวงคนๆนั้น จริงๆแล้วมันจะได้โชว์ความน่ารักของมันต่างหากล่ะ บางตัวก็จะมีนิสัยเงียบขรึม บางตัวก็จะมีนิสัยร่าเริง บางครั้งอาจร่าเริงเกินเหตุจนอยู่ไม่เป็นสุขอีกด้วย แต่เจ้าเซนต์นี้มันเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนเอาการเลยนะ เพราะรูปร่างลักษณะของตัวมันทำให้ต้องมีการระบายความร้อนอยู่เสมอ แต่ถึงจะขี้ร้อนก็เถอะเจ้าเซนต์ยังชอบฝึกฝนและออกกำลังกายอีกด้วย

การดูแล
     อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยง ควรคำนึงถึงสารอาหารไม่ควรเน้นโปรตีนอย่างเดียว ในตอนที่ยังเป็นลูกสุขัขอายุ 4 เดือนควรให้อาหารวันละ 4 ครั้ง เมื่ออายุ 5 เดือนจนถึง 1 ปีลดเหลือ 2 ครั้ง ต่อจากนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยงในการให้อาหาร อาจลดเหลือ 1 ครั้งต่อวันก็เป็นได้ นอกจากนี้ควรให้น้ำดื่มที่สะอาดด้วย จะต้องมีการเปลี่ยนตลอดเวลาเพราะจะช่วยระบายความร้อนให้กับสุนัข

     ในเรื่องของการทำความสะอาด ควรดูแลอย่างประจำ ไม่ควรใช้น้ำที่เย็นมากเกินไป ในการอาบน้ำ สำหรับสุนัข ควรอาบน้ำ ให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่น้ำและอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จ ให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง และแปลงขนเพื่อกำจัดขนที่หมดอายุ เห็บ หมัดและทำให้ขนดูมีระเบียบเรียบร้อย

     ส่วนเรื่องของสุขภาพ ควรหมั่นคอยดูแลรักษาน้ำหนักในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มมากเกินไป เพราะจะเพิ่มแรงกดและเป็นภาระต่อกระดกและข้อต่อที่กำลังเจริญเติบโต ที่สำคัญหากเลี้ยงในบริเวณบ้านควรมีรั้วสูงอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อกันไม่ให้สุนัขหนีเที่ยว และวครจะให้สุนัขออกกำลังกายอย่างมีขอบเขต สม่ำเสมอ ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เพราะ กระดูกของสุนัขแต่ละวัยจะรับน้ำหนัก แรงกดได้ไม่เหมือนกัน ต้องค่อยๆ ฝึกออกกำลังกายไปตามลำดับ เมื่อสุนัขเติบโตเต็มวัยควรออกกำลังกายแค่พอประมาณเท่านั้น


 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     ไม่ว่าจะผู้อยู่คนเดียว หรือครอบครัวก็สามารถเลี้ย'ได้ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีการดูแลเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมก็จะต้องมีเวลาในการดูแล และมีกำลังทรัพย์พอต่อการเลี้ยง

ข้อควรจำ
     สุนัขพันธุ์นี้ลักษณะรูปร่างใหญ่ มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย จึงต้องใส่ใจต่อการดูแลอย่างมาก เพื่อไม่ให้ลดเวลาการใช้ชีวิตของมันสั้นลง และที่สำคัญมั่นตรวจสอบสุขภาพมันอยู่เสมอ เพื่อสามารถรักษาอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ



 มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด   ตัวผู้สูงอย่างน้อย 27 นิ้ว ตัวเมียสูงอย่างน้อย 25 นิ้ว ตัวเมียจะมีโครงสร้างที่สวยและดูอ่อนช้อยกว่า
ศรีษะ   เซนต์เบอร์นาร์ดมีศีรษะที่ใหญ่โต กว้าง และ มีความแข่งแกร่งมาเลยทีเดียว กระดูกแก้มอยู่สูง มีสันกระดูกเหนือตาชัดเจน ผิวหนังที่หน้าผากมีรอยย่นลงมาเห็นได้ชัด
ฟัน       จมูกจะใหญ่ มีรูจมูกที่เปิดกว้างและมีสีดำเหมือนริมฝีปาก ควรดูมันเงาตลอดเวลา
ปาก     ริมฝีปากมีสีดำ ไม่บางและหนาเกินไป ริมฝีปากล่างต้องไม่ห้อยมากไป
ตา        ตั้งอยู่ด้านหน้าระหว่างจมูก ขนาดปานกลาง สีน้ำตาลเข้ม แววตาฉลาดและเป็นมิตร
หู         มีขนาดปานกลาง จะอยู่สูงจากบริเวณฐาน ห่างจากศีรษะเล็กน้อย แล้วพับงอลงมาด้านข้างแนบกับศีรษะ ใบหูนิ่มมีลักษณะสามเหลี่ยมปลายมนยาวออกไปเล็กน้อยทางด้านปลาย        
จมูก     สีดำ รูจมูกกว้าง
คอ       ชูตั้งสูงและตั้งตรง บริเวณต้นคอมีมัดกล้ามเนื้อมากและด้านข้างมีความกลม ทำให้เห็นการเชื่อมต่อของคอและหัวชัดเจน ดูเหมือนลำคอสั้น  
อก       ความโค้งสูงมาก ลึกพอประมาณ ไม่ยื่นลงไปต่ำกว่าข้อศอก
ลำตัว    ลำตัวหน้าใหญ่ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ช่วงซี่โครงอกกว้าง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
เอว       -
ขาหน้า มีพละกำลังและมีกล้ามเนื้อ เหยียดตรงและแข็งแรง
ขาหลัง ทำมุมพอประมาณ ไม่ควรมีนิ้วติ่งส่วนเกิน
หาง      ใหญ่และยาว มีน้ำหนัก จะอยู่ในลักษณะปลายงอน คล้ายรูปตัว f
ขน       ดก หนาแน่น ราบเรียบ มีความยาวพอประมาณ มีขนหยิกเล็กน้อย บริเวณต้นขาขนจะไม่แน่นมาก ที่โคนหางขนจะยาวและแน่นกว่าบริเวณปลายหาง ที่หางขนจะแน่นและหางไม่เป็นรูปธง ควรจะมีส่วนโค้งรับกับลำตัว

สีขน    ขาวมีแดงแซม หรือ แดงแซมขาว สีแดงก็จะมีหลายเฉดสี สีแดงอมน้ำตาลมีขาวแต้ม สีแดงและเหลืองน้ำตาลมีปริมาณเท่าๆกัน รอยแต้มที่สำคัญ คือ ที่อก เท้าและปลายหาง รอบจมูก รอบๆ คอ เป็นสีขาว สีสันจัดจ้าน ต้องไม่มีแค่สีเดียวหรือไม่มีสีขาว ข้อบกพร่องคือ สีอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ยกเว้นเชดสีเข้มบนศีรษะ(หน้ากาก) และหู

ซาลูกิ (Saluki)

 ซาลูกิ (Saluki) สง่างาม เฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ว่องไว



 ลักษณะทั่วไป
     แม้ว่าซาลูกิจะมีความสง่างาม บอบบาง แต่มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ว่องไว แข็งแรง ทนทาน สมกับที่มีสายเลือดสุนัขล่าเนื้อ ซาลูกิมีขนยาวสลวยปกคลุมถึงช่วงขา  สีขนมีทั้งสีขาว สีครีม สีทอง สีแดง สีน้ำตาลลูกกวาง สีเทาผสมน้ำตาลแทน สีดำผสมสีน้ำตาลแทน หรือมีปนกัน 3 สี อายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 – 14 ปี



ความเป็นมา
     ซาลูกิมีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์  ในฐานะสุนัขของราชวงศ์แห่งอียิปต์  พวกเขาเป็นสุนัขที่ได้รับความชื่นชมและภาคภูมิใจว่ามีรูปร่างที่สง่างามมาก เฉกเช่นรูปลักษณ์ของกษัตริย์ฟาโรห์  แต่เดิมชาวอาหรับนำซาลูกิไปใช้ล่ากวาง เนื่องจากพวกเขาทนกับ สภาพอากาศแบบทะเลทราย ได้ดี สายตาว่องไว มีความสามารถในการล่าสัตว์ ซึ่งในปีค.ศ. 1840 ได้มีการนำเข้าซาลูกิยังประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยถูกนำไปเลี้ยงไว้เพื่อล่ากระต่ายป่า

 ลักษณะนิสัย
     ซาลูกิมีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน พวกเขาต้องการพื้นที่โล่งกว้างสำหรับวิ่งเล่น ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน

การดูแล
     แม้ว่าซาลูกิจะอยู่ได้ดีภายในบ้าน แต่พวกเขาก็ต้องการออกไปนอกห้องหรือนอกบ้านบ้าง มีพื้นที่กว้างๆ ให้ได้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะช่วงขาที่ยาวเป็นพิเศษ ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่พวกเขาก็สามารถเจริญเติบโตได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์  นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่น



 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     มีพื้นที่สนามหญ้ารอบบริเวณบ้านให้เขาได้วิ่งเล่น ออกกำลังกายช่วงขา พาเขาวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งควรจะมีเวลาดูแลรายละเอียดในการรักษาทำความสะอาด  ผิวหนังของสุนัขพันธุ์ซาลูกิบอบบางมากต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรจำ
     35.6 เปอร์เซ็นต์ของซาลูกิ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถัดลงมาเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหัวใจล้มเหลว ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องการกินและสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นอย่าง หมั่นพาไปตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน เป็นประจำ

 มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด  เพศผู้มีความสูงโดยประมาณ 23 – 28 นิ้ว น้ำหนัก 20.5 – 29.5 กิโลกรัม ส่วนเพศเมีย ส่วนสูงประมาณ 18 – 26 นิ้ว น้ำหนัก 15.9 – 25 กิโลกรัม
ศรีษะ ยาว ไม่กว้าง กว้างขึ้นช่วงระหว่างหูทั้ง 2 ข้าง บริเวณสันจมูกหักเข้าเล็กน้อยทอดตัวยาวแหลมไปจนถึงปลาย
ฟัน       แข็งแรงและเรียงไล่ระดับอย่างเป็นระเบียบ
ปาก     -
ตา        ดวงตากลมโตรูปไข่ สีเข้มสุกใส ไม่โปนออกมานอกเบ้าตา
หู         ยาวปกคลุมด้วยขนยาวสวยที่ทิ้งตัวลงมาตั้งแต่บริเวณศีรษะ
จมูก     มีสีดำหรือด่าง
คอ       ยาว เคลื่อนไหวได้ดี ยืดหยุ่น แต่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
อก       ลึก แคบกำลังดี
ลำตัว  ลำตัวมีรูปทรงไข่ กล้ามเนื้อช่วงไหล่แน่น แข็งแรง หลังแบนราบ กล้ามเนื้อสะโพกโค้งเล็กน้อย
เอว       -
ขาหน้า ขาหน้าตั้งตรง ความยาวจากช่วงไหล่ถึงข้อเท้าจะยาวเป็นพิเศษ ไหล่ลาดเอียงไปทางด้านหลังกำลังดี มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ไม่เหลวนุ่ม
ขาหลัง แข็งแรง ช่วงต้นขาของขาหลังโค้งงอได้รูปลงไปจนถึงข้อเท้า เน้นให้เห็นรูปทรงขาที่สง่างามราวม้าแข่ง อีกทั้งเห็นถึงพลังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้การก้าวกระโดดมีประสิทธิภาพสูง
หาง   ยาว ทิ้งต่ำ และโค้งตามธรรมชาติ มีขนยาวตรงสวยงามปกคลุม ที่ด้านนอกของหาง
ขน   ยาวเนียนนุ่มสลวยราวกับแพรไหม โดยเฉพาะขนยาวบางๆ ปกคลุมที่ขาทั้ง 4 ข้าง บริเวณด้านหลังของหน้าแข้ง บนหน้าแข้ง และไหล่
สีขน  สีขนมีทั้งสีขาว สีครีม สีทอง สีแดง สีน้ำตาลลูกกวาง สีเทาผสมน้ำตาลแทน สีดำผสมสีน้ำตาลแทน หรือมีปนกัน 3 สี (ขาว ดำ และน้ำตาลแทน)